7 วิธีเลือกบริษัทรับออกแบบภายในให้มีมาตรฐานสูง

  1. กำหนดความต้องการของตนเอง
    การเลือกบริษัทออกแบบตกแต่งภายในให้มีมาตรฐานสูง ต้องเริ่มจากตนเอง ตัวเจ้าของมักมีสิ่งที่คิดไว้ในใจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายโครงการงบประมาณ ลำดับเวลา และความคาดหวัง กำหนดขอบเขตงานที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่ภายในมากน้อยแค่ไหน ปรับปรุงเต็มพื้นที่การปรับปรุงบิ้วอิน (Built-in) ห้อง หรือเพียงแค่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบตกแต่งภายใน
  2. ค้นคว้าและรวบรวมคำแนะนำ
    ประสบการณ์ตรงมักดีที่สุดเสมอ ขอคำแนะนำจากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับบริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่พวกเขาเคยร่วมงานด้วยหรือจากเพื่อนของคนใกล้ตัวอีกทีรวมถึงหาข้อมูลอื่น ๆ จากอินเตอร์เน็ต ทั้งในส่วนของงานในอดีตที่ผ่านมา จาก portfolio รีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆทั้งใน Google, หน้าเว็บไซต์ของบริษัท หรือแม้แต่จากเพจ Facebook ของบริษัท ซึ่งบริษัทที่ดี จะทำให้เราสามารถประเมินได้จากผลงานในการทำงานที่ผ่านมาว่ามีเพียงพอที่จะสามารถการันตีคุณภาพงานที่เคยทำมาได้หรือไม่ โดยบริษัทควรแสดงผลงานให้ดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ และเพื่อดูได้ว่ามีผลงานหรือมีคอนเซ็ปต์ที่ตรงกับความต้องการหรือไม่
  3. เลือกบริษัทออกแบบภายในที่มีความน่าเชื่อถือ
    ความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะเป็นปัจจัยในการเลือกใช้บริการ ให้ได้รับการรับรองการใช้งานที่ได้คุณภาพ มากที่สุด
    สิ่งที่จะทำให้เราสามารถแยกความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุดนั่นก็คือ ควรเลือกบริษัทที่มีใบอนุญาติ ในการประกอบกิจการ และมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจนเพราะ 2 สิ่งนี้ จะเป็นหลักฐานการันตีความน่าเชื่อถือของบริษัท และรับรองมาตรฐานการทำงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราจะได้รับการออกแบบตกแต่งภายในที่ได้คุณภาพ ใช้งานได้ดี และมีความปลอดภัยในการใช้งาน
  4. สโคปงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบตกแต่งภายใน
    หน้าที่ของมัณฑนากร นอกจากหน้าที่หลักคือ การออกแบบตกแต่งพื้นที่เพื่อให้มีความสวยงาม เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์แล้ว ยังมีหน้าที่ในการศึกษาโครงสร้างของงาน คำนวณแบบ ประมาณราคา และเลือกวัสดุ ตกแต่งที่มีคุณภาพเหมาะสมให้ตรง เป้าหมายและประโยชน์ใช้สอย สิ่งที่ควรจะทราบก่อนการว่าจ้างควรทราบว่าบริษัทออกแบบตกแต่งภายในนี้ มีบริการอะไรบ้าง เนื่องจากบริษัทออกแบบตกแต่งภายในบางแห่ง ไม่ได้ใ้ห้บริการแบบครบวงจรจึงควรเลือกบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ที่ให้บริการที่ครบครัน ทั้งด้านการออกแบบ การตกแต่ง เพื่อลดการทำงาน ที่ยุ่งยากและซับซ้อน เราจะไม่จำเป็นต้องไปจ้างนักออกแบบจากบริษัทหนึ่ง และไปจ้างช่างรับเหมาอีกบริษัทหนึ่ง เนื่องจากบางครั้ง มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า ทั้งสองบริษัทมักจะคุยกันไม่ลงตัว สิ่งที่ตามมาคือ งานไม่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  5. ทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัทออกแบบภายใน
    ในเรื่องของตกลงเรื่องการว่าจ้าง อาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนนึกไม่ถึง หรือมองข้ามไปเป็นอันดับต้น แต่ประเด็นนี้ มักสร้างปัญหาในการจ้างงานกับงานออกแบบตกแต่งภายใน ไม่มากก็น้อย เมื่อพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างมัณฑนากร เพื่อการออกแบบตกแต่งภายใน โดยทั่วไปจะมีการคิดค่าใช้จ่าย 3 รูปแบบ ดังนี้

แบบที่ 1 คือ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อสร้าง และงานตกแต่งภายใน โดยมัณฑนากรแต่ละคน จะมีอัตราค่าบริการตามชื่อเสียง และฝีมือเป็นหลักนอกเหนือไปจากเกณฑ์มาตรฐานของสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (tida)

แบบที่ 2 คือ คิดค่าออกแบบในลักษณะเหมาจ่าย กล่าวคือลูกค้าและผู้ออกแบบตกลงว่าจ้างกันในวงเงินที่ทั้งสองฝ่ายพอใจและทำสัญญาจ้างทำแบบจบสิ้นเมื่อส่งแบบเสร็จ เจ้าของบ้านอนุมัติ ไม่ว่าจะนำแบบนั้นไปสร้างหรือไม่สร้าง และไม่ว่าค่าก่อสร้างรวมถึงการตกแต่งจะมีราคาเท่าไหร่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าออกแบบทั้งนั้น

แบบที่ 3 คือ มัณฑนากรที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรับเหมาตกแต่ง การว่าจ้างลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ของค่าก่อสร้างตกแต่ง หรือทางบริษัทอาจคิดรวมกับค่าก่อสร้างเลยโดยบอกลูกค้าว่า ไม่คิดค่าออกแบบแยก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตกลงและความพึงพอใจว่าจะจ้างแบบไหน รวมถึงในเรื่องการแบบชำระ ควรแบ่งขั้นตอนการทำงานหรืองวดชำระเงินที่ชัดเจน เพื่อประเมินได้ว่าในขั้นตอนแต่ละส่วนนั้นทำอะไรบ้าง และเพื่อประเมินระยะเวลาแล้วเสร็จได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการแบ่งงวดชำระเงินที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการทิ้งงาน หรือตามงานไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบได้บ่อยในการจ้างบริษัทออกแบบตกแต่งภายใน

  1. การประกันผลงาน
    บริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่ดี จะต้องมีการรับประกันผลงานที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า หากเกิดปัญหา มีบริการหลังการขาย ที่บริษัทจะดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ให้ลูกค้าในกรณีที่มีปัญหามาหลังจากการบริการ
  2. เลือกบริษัทออกแบบภายในที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบ ตรงเวลา
    ในงานวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ต้องทำงานอย่างเป็นระบบ เรียงลำดับอย่างถูกต้องชัดเจน เพราะการสร้างบ้าน ตกแต่งบ้านมีองค์ประกอบหลายส่วนเพื่อลดการเกิดปัญหาในงานใหได้มากที่สุด สามารถตรวจสอบพื้นที่ในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว หากไปจ้างผู้รับเหมาตกแต่งภายใน ที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานไม่เป็นระบบ ทิ้งงาน ไม่รายงานความคืบหน้า ไม่สนใจงานหรือปล่อยปะละเลย แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาอาจไม่เป็นอย่างที่คิด บางผู้รับเหมาใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ จึงควรต้องเลือกบริษัทที่เชื่อถือได้ มีประสบการณ์ คอยอัพเดทความคืบหน้าให้ทราบตลอดเวลา มีการประสานงานภายในทีมอย่างชัดเจนรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และส่งงานตรงตามกำหนดเวลา

สำหรับขั้นตอนการ Built-in ที่่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หากได้บริษัทที่เป็นมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญครบทุกด้าน ทุกการออกแบบและตกแต่งบ้านของคุณก็เป็นเรื่องง่าย ที่ RISE DESIGN STUDIO เรามีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษา ออกแบบช่วยเลือกวัสดุและฟังก์ชัน เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคุณมากที่สุด ให้คุณอุ่นใจ หมดกังวลกับการมีบ้านในฝันที่ไม่ตรงปกเพราะเราเป็นหนึ่งในบริษัทอินทีเรียที่มีโรงงาน Built-in ขนาดใหญ่ รองรับ Scale ขนาดใหญ่ ที่สามารถออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ตรงตามสเปคโดนใจลูกค้า พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่ช่วยดูแลคุณตลอดระยะเวลา 1 ปี